“อปพส.” บุก กสทช. บี้ตรวจสอบสื่อมวลชนผิดจริยธรรม ขาดจรรยาบรรณสื่อ นำเสนอข่าวทำลายสถาบันพระพุทธศาสนา
👍ตลอดระยะเวลา 5-6 เดือนที่ผ่านมา การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัดและพระสงฆ์ พบว่ามีความบิดเบือน และตั้งเป้าเจตนานำเสนอเพื่อทำลายพระพุทธศาสนา ซึ่งการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในสื่อที่มีกระแสความนิยม หรือ เรทติ้งสูง กลับเน้นการนำเสนอข่าวที่ไม่คำนึงถึงจริยธรรมและศีลธรรมในวิชาชีพสื่อมวลชน โดยมุ่งนำเสนอประเด็นข่าวโดยไม่ตรวจสอบความจริงก่อนนำเสนอ 👍👍👍👍 กรณีการนำเสนอข่าวหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ว่ามีภรรยา 4 คน และ ลูก 1 คน ซึ่งรายการเดียว มีคนดูรวมกันหลายแสนคนและมีการออกสื่อฯหลายรายการ ขณะที่เมื่อความจริงปรากฎว่า ผลตรวจดีเอ็นเอของเด็กไม่ตรงกับหลวงพ่ออลงกต กลับพบว่า สื่อที่นำเสนอข่าวเท็จ ไม่แก้ไขข่าว และ ไม่นำข้อมูลความจริงไปนำเสนอและสื่อที่ไปออกข่าวเท็จ เช่น เรื่อง ธุรกิจบุญ แท็กซี่กระปุกบุญ ที่ระบุว่ามีการแบ่งรายได้เข้าวัด 70% และแท๊กซี่ 30% นั้นเป็นข่าวเท็จและอีกหลายๆข่าว ในช่องรายการทีวีดัง และช่องสื่อต่างๆ 👍👍👍👍👍 รวมทั้งการทำหน้าที่สื่อที่บิดเบือนทำให้ศรัทธาผู้คนที่มีต่อพระพุทธศาสนาสั่นคลอน จนนำมาซึ่งการร้องเรียนของ “กลุ่มองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ” (อปพส.) นำโดย “นายประพันธ์ กิตติฤดีกุล” เลขาธิการ อปพส. พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2568 👍👍👍👍👍 @จี้ กสทช.จัดการสื่อ ในกระบวนการเซาะกร่อน บ่อนทำลายพระสงฆ์ 👍👍👍👍 นายประพันธ์ กิตติฤดีกุล เลขาธิการ อปพส. ได้ยื่นหนังสื่อให้กับตัวแทนของประธาน กสทช. เพื่อเร่งตรวจสอบจริยธรรมสื่อ ในฐานะที่ กสทช.กำกับดูแลการทำงานของสื่อ โดยเฉพาะเนื้อหาที่นำเสนอต่อสาธารณชน ทั้งนี้ เนื้อหาในหนังสือมีประเด็นสำคัญ คือ ให้ตรวจสอบและกำกับดูแลจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชน ที่มีการ ละเมิดสิทธิ ออกข่าวเท็จ ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม นำเสนอข่าวยุคดิจิตอลจนนำไปสู่การเซาะกร่อนบ่อนทำลายความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นสถาบันหลักของประเทศ 👍👍👍👍 นายประพันธ์กล่าวว่า กว่ากึ่งศตวรรที่กระบวนการเซาะกร่อนบ่อนทำลายคณะสงฆ์ไทยอย่างเป็นระบบ และใช้ยุทธวิธีค่อยเป็นค่อยไปอย่างมียุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และกลยุทธ เหมือน “ การไหลของกระแสน้ำ ” ตามแผนนโยบายลับขององค์กรอิสลามโลกที่มีต่อประเทศไทย แผนตาลาตี๊ต่ำปง โดยใช้ลักษณะเฉพาะตัวของลัทธิปกครองซ่อนตัวในคราบศาสนา อันเป็นอัตลักษณ์พิเศษ เพื่อการยึดครองและปกครอง 👍👍👍👍 “ใครครอบครองสื่อ คือ คนครอบครองโลกด้วยหลักนิยมดังกล่าว กระบวนการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย พระพุทธศาสนาจึงใช้หลักการนี้เช่นกัน ดั่งเราจะพบข่าวพระกระทำผิดกระจายออกสู่สาธารณะเป็นระยะๆด้วยความผิดต่างๆนานา ตรงกันข้ามกับลัทธิศาสนาอื่นๆ ซึ่งสร้างปัญหา ทั้งความเสียหาย รุนแรง ความหยาบคาย ป่าเถื่อน เอารัดเอาเปรียบ ทุกวิถีทางแบบไม่ ลด ลา วา ศอก แต่สื่อมิได้ประโคมข่าว เกาะติด เจาะลึก เปิดเผยสู่สาธารณชน เฉกเช่น วงการสงฆ์ อย่างมีนัยยะสำคัญด้วยวาระซ่อนเร้นอำพราง ดั่งกรณี ปัญหาความรุนแรงจากขบวนการก่อการร้ายมุสลิมชายแดนใต้มากกว่า 20 ปี ที่มีการฆ่าคนไทยพุทธ ฆ่าพระ ฆ่าสามเณร ฆ่าครู ฆ่าทหาร ฆ่าผู้บริสุทธิ์มากมาย เกือบ หมื่นศพ จนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ จากที่เคยมีคนไทยพุทธมากกว่า 600,000 คน แต่ในปัจจุบันเหลือไม่ถึง 72,000 คน ซึ่งประเด็นเหล่านี้สื่อก็ไม่นำเสนอให้สังคมรับรู้” นายประพันธ์กล่าว 👍👍👍👍 @ถึงยุคเสื่อมของสื่อ ประชาชนวอน กสทช. ทำหน้าที่ตามกฎหมาย 👍 นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า สื่อบางแห่งมีการใช้วาทะกรรมศรีธนญชัย เช่น อย่าพูดเรื่องอิสลามเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะสร้างความแตกแยก ซึ่งวิธีการดังกล่าว เสมือนกฎหมายปิดปากที่มิต้องบัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษร หากแต่มีสภาพบังคับทั่วทั้งแผ่นดิน รวมทั้งสื่อยังนำเสนอข่าวพระสงฆ์ในแง่ร้าย ให้ข่าวเท็จพระสงฆ์ได้โดยตลอด หรือแม้กระทั่งมีขบวนการจัดฉากทำให้เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีคนนับถือพระพุทธศาสนามากถึง 90% เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นสถาบันหลักของคนไทยมาอย่างช้านาน 👍 แต่สื่อยุคนี้กลับไม่คำนึกถึงเรื่องละเอียดอ่อน มุ่งจะทำข่าวพระในแง่ร้าย โดยไม่คำนึงถึงเรื่องผลที่จะตามมานั่นคือความแตกแยก แตกสามัคคีบนแผ่นดินไทย “ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น การนำเสนอข่าวของสำนักข่าว สื่อสิ่งพิมพ์หลากหลายสำนักผ่านนักข่าว ผู้สื่อข่าว บรรณาธิการ เป็นที่ประจักษ์ จนสังเกตเห็น ความผิดปกติของการเสนอข่าว อย่างชัดเจน ภาคประชาชนชาวไทยซึ่งนับถือพระพุทธศาสนา นำโดย องค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ (อปพส.) จึงขอให้ ท่านประธาน กสทช.และที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักและเคร่งครัดต่อ ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชน สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ พ.ศ.2564 คำนึกถึงหลักจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อ มิให้เกิดการละเมิดสิทธิ และความรับผิดชอบต่อสังคม การกำกับดูแลในการนำเสนอข่าวยุคดิจิตอล อย่างมืออาชีพ ตามหลักพุทธศาสนสุภาษิต ธมฺเมน วิตฺตเมเสยฺย พึงหาเลี้ยงชีพ โดยทางชอบธรรม” นายประพันธ์กล่าว 👍 นายประพันธ์พร้อมด้วยกลุ่มภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ยังเน้นในหนังสือว่า ขอให้ประธาน กสทช. และผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิจารณาตรวจสอบ และกำกับดูแลสื่อสารมวลชนทุกประเภท ให้ปฏิบัติ ตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชน สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ พ.ศ.2564 ตามอำนาจที่ระบุใน พ.ร.บ.ตามกฏหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อพระพุทธศาสนา 👍 เพราะฉะนั้น เรื่องการทำหน้าที่ของภาคประชาชนที่เดินหน้ายื่นหนังสือไปยัง กสทช. นับเป็นมิติใหม่แห่งความเคลื่อนไหวที่เข้มข้นของภาคประชาชนในการทำหน้าที่ปกป้องชาติ พุทธศาสนา และ สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้พ้นภัยจากการทำหน้าที่ที่บิดเบือนของสื่อสารมวลชนในยุคปัจจุบัน ซึ่งภาคประชาชนมีหลักฐานครบว่า การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนยุคนี้เต็มไปด้วยความอคติ ลำเอียง มีสื่อมวลชนเพียงส่วนน้อยที่ให้ความเป็นธรรมต่อ 3 เสาหลักของชาติ ได้แก่ ชาติ พุทธศาสนา และ สถาบันพระมหากษัตร
กสทช.
ศิริประภา เย็นยอดวิชัย
10/29/20251 min read
My post content

Contact
Get in touch
Connect
© 2025. All rights reserved.